มาอัพเดชผลผลิตของสวนที่โทรมๆของผม เพราะไม่มีเวลาไปดูแลเลยครับ ทุนก็ชักเริ่มหล่อยหลอลงไปทุกที
มาดู
พุทธาปีนี้ พอได้เก็บได้กินครับเพราะไม่ได้พ่นสาร กับให้น้ำอะไรเลย มั่วแต่ไปทำงานหลวงกับรับจ๊อบเขียนแบบอยู่งานสวนเลยต้องปล่อยไปก่อน
เนื่องจากไม่ได้ดูแล ดูลูกพุทธาเป็นยังไงก็มี แต่รสชาติยังหวานกรอบอร่อยเหมือนเดิมครับ ลูกโตตามสายพันธุ์ คนปลูกต้องไปแย่งเจ้าของสวนกิน ฮี่ๆ ก็พวก นก หนู ค้างคาว นั้นแหละครับ เพียบ ... แต่ที่แปลกใจคือไม่มีหนอน หรือแมลงวันทองเจาะเลยครับ ไม่ได้พ่นยาหรือสารไล่แมลงอะไรเลยนะครับ แสดงว่าพันธุ์นี้มีภูมิต้านทานอยู่ระดับหนึ่งจะสังเกตุได้ว่ามีเปลือกหนา เนื้อจะออก กรอบๆ แข็งๆ แต่ความหวานไม่ต้องพูดถึงครับ รู้สึกจะหวานกว่า พันธุ์ นมสดอีก อ่อ ลืมไป พันธุ์นี้ น่าจะเป็นพันธุ์ ซุเปอร์จ้ำโบ้ หรือใครๆเค้าเรียก พันธุ์แอ๊ปเปิ้ลนั้นแหละครับ ส่วนต้นและกิ่งต้องล้มให้เหลือแต่ตอทุกปีนะครับไม่งั้นละก็ จะเป็นงานหนักเลย เพราะเป็นไม้โตเร็วครับ แต่เราก็จะได้ฟืนครับเป็น
พลังงานภาคเกษตรที่ไม่ควรมองข้ามกันเลยทีเดียว
ส่วน
กล้วยหอมทอง คุณแม่ก็ตัดไปขายได้เรื่อยๆครับ รายได้จากกล้วยหอมปีที่แล้ว เอาไปลงทุนสาระพัดอย่างเป็นต้นว่า ลงทำนา เกี่ยวข้าว ปลูกข้าวโพด โอ้ยหลายอย่าง แต่ผมไม่ได้เห็นเป็นตัวเงินเพราะให้แม่เก็บได้ราวๆ 5-6 หมื่นได้ครับ สำหรับ ที่ 2 ไร่นิดๆ ปีนี้ก็ว่าจะล้มปลูกข้าวโพดก่อนเพื่อตัดวงจรพวกศัตรูกล้วยหอม มีเยอะนะครับ ทั้งเชื้อรา หนอนเจาะหัว หนอนเจาะต้น โรคใบแห้ง ผมไม่อยากพ่นยาเยอะน่ะครับแต่ก็ยังมีให้ได้ตัดได้ขายตลอด
กล้วยเนี้ย อย่าให้ช้ำอย่างเดียวเลยครับเลยต้องมีมีดตัดเฉพาะไม่งั้นดูไม่ได้เลยครับ แต่บางส่วนก็ล้มไปบ้างแล้วและปลูกข้าวโพดแบบกินเม็ด พวกข้าวโพดสาลี ข้าวโพดข้าวเหนียว ข้าวโพดหวาน พวกนี้อายุสั้นครับ ปลูก แค่เดือน สองเดือนก็เก็บผลผลิตได้แล้วครับ
ช่วงจะล้มกล้วยเพื่อปลูกพืชหมุนเวียนกก็ต้องหารายได้เสริมโดยให้พื้นที่เกิดประโยชน์มากที่สุดครับ ตอนนี้ก็ลงทั้ง พริก ผักกาด ผักชี อื่นๆที่จะหามาปลูกได้ เป้าหมายหลักก็ไว้กินก่อนตามเป้าประสงค์เดิมครับ เหลือก็ขาย แต่เก็บมาขายตลอด ฮ่าๆ ก็มันเยอะนี่ครับ
